การค้าขายผลิตภัณฑ์ที่มีใบรับรอง FLEGT

ข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนด้วยความสมัครใจ (VPA) ส่งเสริมการค้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ที่ถูกกฎหมาย ในการส่งเสริมการค้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ที่ถูกกฎหมาย ประเทศหุ้นส่วน VPA ได้พัฒนาระบบเพื่อตรวจพิสูจน์ความถูกต้องตามกฎหมายของไม้และจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ถูกกฎหมายด้วยใบรับรอง FLEGT สหภาพยุโรปพิจารณาว่าไม้ที่มีใบรับรอง FLEGT ถูกกฎหมายและอนุญาตให้เข้าสู่ตลาดสหภาพยุโรป ประเทศหุ้นส่วน VPA จะทำการส่งออกเฉพาะไม้ที่มีใบรับรอง FLEGT สู่สหภาพยุโรปเท่านั้น

ในทางกลับกัน ไม้ที่ไม่มีใบรับรอง FLEGT จากประเทศที่ไม่ใช่หุ้นส่วน VPA จะอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดก่อนที่จะสามารถเข้าสู่ตลาดสหภาพยุโรป ทั้งนี้เนื่องจากกฎระเบียบการค้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ของสหภาพยุโรปมีบทลงโทษผู้ประกอบการสหภาพยุโรปซึ่งนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย

เหตุผลสำหรับ VPA คือการสร้างแรงจูงใจทางดารตลาดสำหรับไม้ที่ถูกกฎหมาย จนถึงปัจจุบัน มีหกประเทศที่ได้ให้สัตยาบันต่อ VPA และกำลังนำระบบต่างๆ ไปปฏิบัติเพื่อสนับสนุนการออกใบรับรอง FLEGT ประเทศอื่นๆ อีกเก้าประเทศยังอยู่ระหว่างการเจรจา VPA กับสหภาพยุโรป

เมื่อรวมกันแล้วประเทศเหล่านี้จะจัดหาไม้เขตร้อนมากกว่าสองในสามของไม้ที่นำเข้าสู่สหภาพยุโรปในปี 2012 บางประเทศพึ่งพาการส่งออกไม้ที่แปรรูปขั้นต้นแล้วสู่สหภาพยุโรปเป็นอย่างมาก ประเทศอื่นๆ ที่มีการส่งออกสู่สหภาพยุโรปเพียงเล็กน้อยในขณะนี้คาดหวังว่า VPA จะช่วยเพิ่มปริมาณการส่งออกไปสู่สหภาพยุโรปมากขึ้น

อย่างไรก็ดี VPA ใช้เวลาในการตกลงยอมรับและนำไปปฏิบัติมากกว่าที่คาดไว้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่กระบวนการ VPA จัดการกับประเด็นของธรรมาภิบาลป่าไม้ที่เป็นปัญหามายาวนาน ผลก็คือ ณ ขณะที่เขียนเอกสารฉบับนี้ ไม่มีประเทศใดที่ได้ส่งออกไม้ที่มีใบรับรอง FLEGT สู่สหภาพยุโรป ดังนั้นจึงเร็วเกินไปที่จะประเมินผลของ VPA ต่อการค้า ผลของ VPA ต่างๆ ที่มีต่อการค้าจะขึ้นอยู่กับ

• ขนาดและระยะของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจใน EU
• การขนส่งไม้ที่ได้รับใบรับรอง FLEGT มาถึงสหภาพยุโรปเป็นครั้งแรก
• การนำกฎระเบียบการค้าไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ของสหภาพยุโรปไปปฏิบัติและบังคับใช้เต็มรูปแบบ

ความล่าช้าในการได้รับข้อมูลสถิติการค้าที่เป็นปัจจุบันหมายความว่าเมื่อไม้ที่มีใบรับรอง FLEGT พร้อมจำหน่ายในตลาดสหภาพยุโรป ผลของปริมาณและมูลค่าของไม้จะไม่ชัดเจนจนกว่าจะถึงปีถัดไป อย่างไรก็ดีระบบการติดตามตลาดค้าไม้ที่เป็นอิสระใหม่นี้จะประเมินผลกระทบต่อการค้าไม้เขตร้อน